ชุดตัวอักษรอาหรับ
ชุดตัวอักษรอาหรับ | |
---|---|
ชนิด | |
ช่วงยุค | คริสต์ศตวรรษที่ 3 หรือ 4 ถึงปัจจุบัน |
ทิศทาง | ขวาไปซ้าย |
ภาษาพูด | อาหรับ |
อักษรที่เกี่ยวข้อง | |
ระบบแม่ | |
ISO 15924 | |
ISO 15924 | Arab (160), Arabic |
ยูนิโคด | |
ยูนิโคดแฝง | Arabic |
ช่วงยูนิโคด |
|
อักษรอาหรับ | ||||||
ﺍ | ﺏ | ﺕ | ﺙ | ﺝ | ﺡ | ﺥ |
ﺩ | ﺫ | ﺭ | ﺯ | ﺱ | ﺵ | ﺹ |
ﺽ | ﻁ | ﻅ | ﻉ | ﻍ | ﻑ | ﻕ |
ﻙ | ﻝ | ﻡ | ﻥ | ه | ﻭ | ﻱ |
ประวัติอักษรอาหรับ เครื่องหมายการออกเสียง ฟัตฮะฮ์ · กัสเราะฮ์ · ء ·ฎ็อมมะฮ์ เลขอาหรับ |
ชุดตัวอักษรอาหรับ (อาหรับ: الْأَبْجَدِيَّة الْعَرَبِيَّة หรือ الْحُرُوف الْعَرَبِيَّة, สัทอักษรสากล: [ʔalʔabd͡ʒadijja lʕarabijja]) เป็นตัวอักษรที่ใช้เขียนภาษาอาหรับ เขียนจากขวาไปซ้ายในรูปตัวเขียน และมี 28 ตัวอักษร ตัวอักษรส่วนใหญ่มีรูปเชื่อม
อักษรอาหรับเคยพิจารณาเป็นอักษรไร้สระ (ใช้แค่พยัญชนะ) แต่ปัจจุบันถือเป็น "อักษรไร้สระไม่บริสุทธิ์"[1] ซึ่งมีการระบุเสียงสระด้วยเครื่องหมายเสริมสัทอักษร เช่นอักษรฮีบรู
อักษรอาหรับเป็นระบบอักษรที่มีผู้ใช้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองแค่อักษรละตินและอักษรจีน[2] โดยเป็นชุดของอักษรที่มีความสำคัญในศาสนาอิสลาม เพราะคัมภีร์อัลกุรอานเขียนด้วยอักษรนี้ อักษรนี้จึงมีใช้แพร่หลายในกลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลาม แม้แต่ภาษานอกกลุ่มเซมิติก เช่น ภาษาเปอร์เซีย ภาษาอูรดู และภาษามลายูปัตตานี ตัวอักษรมีหลายแบบแต่รูปร่างของอักษรเหมือนกัน
โครงสร้างของอักษรอาหรับ
[แก้]เขียนจากขวาไปซ้าย มีอักษรพื้นฐาน 28 ตัว การปรับไปเขียนภาษาอื่น เช่น ภาษาเปอร์เซียและภาษาอูรดูจะเพิ่มอักษรอื่นเข้ามา ไม่มีความแตกต่างระหว่างตัวพิมพ์กับตัวเขียนและตัวเล็กกับตัวใหญ่ อักษรแต่ละตัวจะเขียนติดกับอักษรตัวอื่นแม้ในการพิมพ์และรูปอักษรเปลี่ยนไปขึ้นกับตำแหน่งในคำ ไม่มีการเขียนสระเสียงสั้น ผู้อ่านต้องจดจำเอาเองว่าคำคำนั้นมีเสียงสระเป็นอย่างไร จะเขียนเฉพาะสระเสียงยาวเท่านั้น ในคัมภีร์อัลกุรอานหรือในการสอนจะใช้เครื่องหมายแสดงการออกเสียง ในหนังสือรุ่นใหม่จะแสดงเครื่องหมายการยกเว้นเสียงสระ (ซุกูน) และเครื่องหมายเพิ่มความยาวเสียงพยัญชนะ (ชัดดะฮ์) ชื่อของอักษรอาหรับมาจากคำที่มีความหมายในภาษาเซมิติกแรกเริ่ม การจัดเรียงอักษรอาหรับมี 2 แบบ
- รูปแบบเดิมคือ แบบอับญะดี (Abjadī أبجدي) เป็นการจัดเรียงตามชุดตัวอักษรฟินิเชีย คล้ายกับการเรียงแบบ ABC ในภาษาอังกฤษ
- รูปแบบที่ใช้ในปัจจุบันคือ แบบฮิญาอี (Hejā’i هجائي) ซึ่งเรียงตามรูปร่างของอักษร
การจัดเรียงแบบอับญะดี เป็นการจับคู่อักษรอาหรับ 28 ตัวกับอักษรฟินิเชีย 22 ตัว ที่เหลืออีก 6 ตัว เรียงไว้ข้างท้าย ٲ ب ج د ه و ذ ح ط ي ك ل م ن س ع ف ص ق ر ش ت ث خ ز ض ظ غ
ตัวอักษรพื้นฐาน
[แก้]ชื่อ | ถอดอักษร | เสียง (IPA) | รูปร่าง | อักษรเดี่ยว | ||
---|---|---|---|---|---|---|
ท้ายคำ | กลางคำ | ต้นคำ | ||||
’alif อลิฟ | ’ / ā | หลายแบบ, รวมทั้ง /aː/ [a] |
ـا | ـا | ا | ا |
bā’ บาอ์ | b | b (บางครั้ง p ในคำยืม)[b] |
ـب | ـبـ | بـ | ب |
tā’ ตาอ์ | t | t | ـت | ـتـ | تـ | ت |
thā’ ษาอ์ | th (หรือ ṯ ) | θ | ـث | ـثـ | ثـ | ث |
jīm ญีม | j (หรือ ǧ, g ) | d͡ʒ ~ ʒ ~ ɡ [c] | ـج | ـجـ | جـ | ج |
ḥā’ หาอ์ | ḥ | ħ | ـح | ـحـ | حـ | ح |
khā’ คออ์ | kh (also ḫ, ḵ ) | x | ـخ | ـخـ | خـ | خ |
dāl ดาล | d | d | ـد | ـد | د | د |
dhāl ษาล (ซาล) | dh (หรือ ḏ ) | ð | ـذ | ـذ | ذ | ذ |
rā’ รออ์ | r | r | ـر | ـر | ر | ر |
zayn / zāy ซัย/ซาย | z | z | ـز | ـز | ز | ز |
sīn ซีน | s | s | ـس | ـسـ | سـ | س |
shīn ชีน | sh (also š ) | ʃ | ـش | ـشـ | شـ | ش |
ṣād ศอด/ซ้อด | ṣ | sˤ | ـص | ـصـ | صـ | ص |
ḍād ฎ๊อด/ด๊อด | ḍ | dˤ | ـض | ـضـ | ضـ | ض |
ṭā’ ฏออ์ | ṭ | tˤ | ـط | ـطـ | طـ | ط |
ẓā’ ษออ์~ซออ์ | ẓ | ðˤ ~ zˤ | ـظ | ـظـ | ظـ | ظ |
‘ayn อัยน์ | ʿ | ʕ | ـع | ـعـ | عـ | ع |
ghayn ฆอยน์ | gh (also ġ, ḡ ) | ɣ (บางครั้ง ɡ ในคำยืม)[c] |
ـغ | ـغـ | غـ | غ |
fā’ ฟาอ์ | f | f (บางครั้ง v ในคำยืม)[b] |
ـف | ـفـ | فـ | ف [d] |
qāf ก๊อฟ | q | q (บางครั้ง ɡ ในคำยืม)[c] |
ـق | ـقـ | قـ | ق [d] |
kāf ก๊าฟ | k | k (บางครั้ง ɡ ในคำยืม)[c] |
ـك | ـكـ | كـ | ك |
lām ลาม | l | l | ـل | ـلـ | لـ | ل |
mīm มีม | m | m | ـم | ـمـ | مـ | م |
nūn นูน | n | n | ـن | ـنـ | نـ | ن |
hā’ ฮาอ์ | h | h | ـه | ـهـ | هـ | ه |
wāw เวา | w / ū / aw | w, /uː/, /aw/, บางครั้ง u, o, และ oː ในคำยืม |
ـو | ـو | و | و |
yā’ ยาอ์ | y / ī / ay | j, /iː/, /aj/, บางครั้ง i, e, และ eː ในคำยืม |
ـي | ـيـ | يـ | ي [e] |
- ^a อลิฟแสดงได้หลายหน่วยเสียงในภาษาอาหรับ:
- ไม่มี เครื่องหมายแสดงเสียงสระ: ا
- ต้นคำ: a, i /a, i/ หรือเป็นรูปย่อของคำนำหน้านาม ال (a)l-
- กลางหรือท้ายคำ: ā /aː/.
- อลิฟ กับ ฮัมซะฮ์ ด้านบน: أ
- ต้นคำ: ’a, ’u /ʔa, ʔu/
- กลางหรือท้ายคำ: ’a /ʔa/.
- อลิฟ กับ ฮัมซะฮ์ ข้างล่าง: إ
- ต้นคำ: ’i /ʔi/; ไม่มีรูปกลางหรือท้ายคำ
- อลิฟ กับ มัดดะหฺ:آ
- ต้น กลางหรือท้ายคำ: ’ā /ʔaː/.
- ไม่มี เครื่องหมายแสดงเสียงสระ: ا
- ^c สำหรับผู้พูดภาษาอาหรับ หน่วยเสียงɡ แสดงด้วยอักษรต่างกัน ขึ้นกับสำเนียง ج ใช้ทั่วไปในอียิปต์ และบางครั้งในเยเมนและโอมาน ق ใช้แทนเสียง ɡ ในสำเนียงท้องถิ่น ك หรือ غ ใช้ในที่ที่ ɡ ไม่มีในสำเนียงท้องถิ่น อักษรอื่น ๆ เช่น گ, ݣ หรือ ڨ ใช้ได้เช่นกัน แต่ไม่ถือเป็นอักษรอาหรับมาตรฐาน ในที่ที่ ج แสดง ɡ สามารถใช้ สำหรับ ʒ~d͡ʒ, หรืออักษร چ ที่ใช้ได้ในอียิปต์
- ^d Fā’ และ qāf ในมักเรบ เขียนเป็น ڢ และ ڧـ ـڧـ ـٯ ตามลำดับ โดยเขียนจุดที่ต้นคำหรือกลางคำ
อักษรดัดแปลง
[แก้]รูป | ชื่อ | ถอดอักษร | หน่วยเสียง (IPA) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
เดี่ยว | ท้ายคำ | กลางคำ | ต้นคำ | |||
آ | ـآ | آ | ’alif maddah | ’ā | /ʔaː/ | |
ة | ـة | tā’ marbūṭah | h or t / h / ẗ |
/a/, /at/ | ||
ى | ـى | ’alif maqṣūrah[3] | ā / ỳ | /aː/ |
การใช้อักษรอาหรับเขียนภาษาต่าง ๆ
[แก้]มีการใช้อักษรอาหรับเขียนภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอาหรับอย่างกว้างขวาง โดยมีการปรับแต่งหรือเพิ่มลักษณะเพื่อแทนเสียงที่ต่างไปจากอักษรอาหรับตัวอย่างเช่น ภาษาอาหรับไม่มีเสียง /ป/ ฉะนั้น ภาษาอื่น ๆ ที่มีเสียง /ป/ จึงต้องสร้างอักษรของตัวเองขึ้นมา การเพิ่มเติมนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ
- กลุ่มอักษรดัดแปลงของเปอร์เซียใช้กับภาษาในอินเดียทั้งหมดรวมทั้งภาษาตุรกี
- กลุ่มอักษรอยามีใช้ในแอฟริกาตะวันตก
- อักษรยาวีใช้ในภาษามลายู
ภาษาปัจจุบันที่เขียนด้วยอักษรอาหรับได้แก่
- ภาษาเคิร์ดและภาษาเติร์กเมนในอิรัก
- ภาษาเปอร์เซีย ภาษาอาเซอรี ภาษาโวรานี-เคิร์ด ภาษาบาโลชิ ในอิหร่าน
- ภาษาดารี ภาษาปาทานและภาษาอุซเบกในอัฟกานิสถาน
- ภาษาอูรดู ภาษาปัญจาบ (ชาห์มูคี) ภาษาสินธี ภาษาแคชเมียร์ และภาษาบาโลชิในปากีสถาน
- ภาษาอูรดูและภาษาแคชเมียร์ในอินเดีย
- ภาษาอุยกูร์ ภาษาคาซัคและภาษาคีร์กีซในจีน
- ภาษามลายูในบรูไน และใช้เป็นภาษาตำราศาสนาอิสลามในไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย
- ภาษาโคโมรอส (ใช้ร่วมกับอักษรละติน) ภาษาโวลอฟในซาอีร์-คองโก
- ภาษาฮัวซาใช้ในทางศาสนา
- ภาษามันดินกา
- ภาษาทามาไซต์และภาษากลุ่มเบอร์เบอร์อื่น ๆ
ภาษาที่เคยเขียนด้วยอักษรอาหรับมาก่อนแต่เลิกใช้แล้วในปัจจุบัน ได้แก่
- ภาษาแอลเบเนีย
- ภาษาอาเซอร์ไบจาน
- ภาษาเบลารุส
- ภาษาเบอร์เบอร์
- ภาษาบอสเนีย
- ภาษาคาซัค ในคาซัคสถาน
- ภาษาคีร์กีซ ในคีร์กีซสถาน
- ภาษามลายู (ในมาเลเซียและอินโดนีเซีย)
- ภาษามัวร์
- ภาษาสันสกฤต
- ภาษาโซมาลี
- ภาษาตุรกี (ออตโตมัน)
- ภาษาเติร์กเมน ในเติร์กเมนิสถาน
- ภาษาอุซเบก ในอุซเบกิสถาน
- ภาษาของชาวมุสลิมในอดีตโซเวียตรัสเซีย
การเขียนอักษรอาหรับ
[แก้]การเขียนอักษรอาหรับเป็นการเขียนแบบต่อเนื่องกันไป อักษรแต่ละตัวมีรูปร่างต่างไปขึ้นกับตำแหน่งในคำว่าอยู่ต้น กลางหรือท้ายคำ มีอักษร 6 ตัวที่มีเพียงแบบเดี่ยวกับท้ายคำ ดังนั้นเมื่อตามหลังอักษรตัวอื่นจะไม่มีการเชื่อมต่อและอักษรตัวต่อไปจะใช้แบบต้นคำหรือแบบเดี่ยวถ้าไม่มีแบบต้นคำ อักษรที่ไม่มีแบบต้นคำหรือกลางคำจะไม่ใช้เป็นตัวตามอักษรอื่นแม้ภายในคำ ฮัมซะฮ์ ไม่ใช้นำหน้าหรือตามหลังอักษรอื่นบางครั้งใช้เขียนบนวาว ยาอุ หรือ อลิฟเพื่อแสดงเสียง/อ/ อลิฟ มักศูเราะฮ์ (alif maqsurah) ในภาษาอาหรับ รูปร่างเหมือนตัวยาอุที่ไม่มีจุดข้างล่าง (ی) ใช้เฉพาะตำแหน่งท้ายคำเท่านั้น ใช้แทนเสียงสระอา เช่นเดียวกับ อลิฟในภาษาเปอร์เซียและภาษาอูรดูเรียก ฟาร์ซี เยห์ (Farsi yeh) ซึ่งมีรูปต้นคำกับกลางคำด้วย ส่วนอลิฟ มักศูเราะฮ์ ไม่มีรูปดังกล่าว
การเชื่อมต่อ
[แก้]การเขียนอักษรอาหรับแบบเชื่อมต่อเป็นสิ่งที่เห็นได้โดยทั่วไป บางตัวมีรูปแบบเฉพาะ เช่น lām + ’alif
รูป | ชื่อ | |||
---|---|---|---|---|
ท้ายคำ | กลางคำ | ต้นคำ | เดี่ยว | |
ﻼ | ﻻ | lām + ’alif |
การเชื่อมต่อที่เป็นรูปแบบเฉพาะคือ ลาม + อลิฟ ( لا) ตัวอย่างเช่นคำว่า อัลลอฮ์ เขียนได้เป็น اﷲ
ฮัมซะฮ์
[แก้]ในระยะแรก อลิฟใช้แทนเสียง /อ/ ซึ่งเป็นลักษณะที่มาจากอักษรฟินิเชีย ปัจจุบันนำมาใช้แทนสระเสียงยาวเช่นเดียงกับวาวและยาอุ ทำให้เกิดความคลุมเครือว่าอลิฟตัวนั้นแทนเสียง /อ/ หรือสระอา อักษรอาหรับปัจจุบันจึงเพิ่มฮัมซะฮ์ใช้แทนเสียง /อ/ ซึ่งปรากฏได้ทุกที่ภายในคำ เขียนทั้งโดยลำพังและเกาะกับอักษรอื่น
ชัดดะฮ์
[แก้]ชัดดะฮ์ (◌ّ) บ่งถึงการซ้ำพยัญชนะ โดยเขียนบนพยัญชนะตัวที่ 2 เมื่อมีการซ้ำ
ซุกูน
[แก้]พยางค์ในภาษาอาหรับมีทั้งพยางค์เปิด และพยางค์ปิดซึ่งใช้กับสระเสียงสั้นเท่านั้น เมื่อเป็นพยางค์ปิดพยัญชนะตัวที่เป็นตัวสะกดจะไม่มีเสียงสระ และใช้เครื่องหมายซุกูน (◌ْ) เพื่อลดความคลุมเครือ โดยเฉพาะเมื่อตัวหนังสือนั้นไม่ได้แสดงเครื่องหมายการออกเสียง ตัวหนังสือมาตรฐานนั้นจะมีแต่พยัญชนะเท่านั้น เช่น qalb “หัวใจ” เขียนเป็น qlb
ซุกูนเป็นตัวบ่งชี้ให้รู้ว่าตรงไหนไม่ต้องใส่เสียงสระ คำ qlb อาจหมายความว่าจะใส่เสียงสระเข้าที่ q l หรือ b ก็ได้ แต่เมื่อเติมซุกุนเหนือตัว l และ b ทำให้รู้ว่าต้องใส่สระที่ตัว q เท่านั้น เขียนได้ว่า قلْبْ เมื่อกำหนดการออกเสียงโดยสมบูรณ์จะเพิ่มเครื่องหมายฟัตฮะฮ์ เป็น قَلْبْ คัมภีร์อัลกุรอานเป็นหนังสือที่แสดงการออกเสียงโดยสมบูรณ์ นอกจากนั้นแล้ว การใส่ซุกูนเหนือตัวยาอุเพื่อกำหนด /อี/ และ วาว เพื่อกำหนด /อู/ พบน้อยมาก เพราะยาอุ + ซุกุน อาจอ่านเป็น /ไอ/ และวาว + ซุกุนอาจอ่านเป็น /เอา/
ตัวอักษร m-w-s-y-q-ā (موسيقى มีอลิฟ มักศูเราะฮ์ที่ท้ายคำ) ปกติอ่านเป็น mūsīqā (ดนตรี) ถ้าเขียนซุกุนบนตัววาว ยาอุ และอลิฟ เป็น موْسيْقىْ จะอ่านเป็น mawsaykāy (ควรจำไว้ว่า อลิฟ มักศูเราะฮ์แม้จะอยู่ท้ายคำแต่ไม่ต้องใส่ซุกุน คำนี้จะถูกเขียนเป็น مُوْسِيْقَى ในคัมภีร์อัลกุรอาน (ถ้ามีคำนี้อยู่) หรือ مُوسِيقَى โดยทั่วไป ซุกุนจะไม่วางที่ตำแหน่งท้ายคำแม้ว่าพยัญชนะนั้นจะไม่มีเสียงสระ
สระ
[แก้]ในภาษาอาหรับไม่เขียนสระเสียงสั้นยกเว้นในหนังสือศักดิ์สิทธิ์ เช่น อัลกุรอาน จะใช้เฉพาะเมื่อกิดความคลุมเครือขึ้น โดยเครื่องหมายสระเสียงสั้นจะเป็นเครื่องหมายอยู่บนหรือล่างพยัญชนะ ในกรณีสระเสียงยาว เช่น /อา/ จะแสดงโดยใช้เครื่องหมายสระเสียงสั้นคู่กับอลิฟ (/อา/) ยาอุ (/อี/) หรือ วาว (/อู/) เสียงสระอาตามด้วยฮัมซะฮ์จะแทนด้วยอลิฟ มัดดะหรือเขียนฮัมซะฮ์ แล้วตามด้วยอลิฟ อักษรยาอุที่แทนสระอาจเชื่อมต่อกับพยัญชนะตัวต่อไปได้
สระเสียงสั้น
[แก้]สระเสียงสั้น (แสดงเสียงอ่าน) |
ชื่อ | ถอดอักษร | ค่า |
---|---|---|---|
064E َ |
fatḥah | a | /a/ |
064F ُ |
ḍammah | u | /u/ |
0650 ِ |
kasrah | i | /i/ |
สระเสียงยาว
[แก้]สระเสียงยาว (แสดงเสียงอ่าน) |
ชื่อ | ถอดอักษร | ค่า |
---|---|---|---|
064E 0627 َا |
fatḥah ’alif | ā | /aː/ |
064E 0649 َى |
fatḥah ’alif maqṣūrah | ā / á | /aː/ |
064F 0648 ُو |
ḍammah wāw | ū | /uː/ |
0650 064A ِي |
kasrah yā’ | ī | /iː/ |
สระเสียงยาว (ไม่แสดงเสียงอ่าน) |
ชื่อ | ถอดอักษร | ค่า |
---|---|---|---|
0627 ا |
(implied fatḥah) ’alif | ā | /aː/ |
0649 ى |
(implied fatḥah) ’alif maqṣūrah | ā / aỳ | /aː/ |
0648 و |
(implied ḍammah) wāw | ū / uw | /uː/ |
064A ي |
(implied kasrah) yā’ | ī / iy | /iː/ |
สระประสม
[แก้]สระประสม (แสดงเสียงอ่าน) |
ชื่อ | ถอดอักษร | ค่า |
---|---|---|---|
064E 064A َي |
fatḥah yā’ | ay | /aj/ |
064E 0648 َو |
fatḥah wāw | aw | /aw/ |
ตันวีน (◌ً ◌ٍ ◌ٌ)
[แก้]ใช้กำหนดการลงท้ายทางไวยากรณ์ด้วย /อัน/ /อิน/ และ /อุน/ ในภาษาอาหรับโบราณมักใช้เชื่อมกับอลิฟ แต่ไม่ค่อยใช้ในภาษาสมัยใหม่
ตัวเลข
[แก้]ตัวเลขที่ใช้มี 2 แบบ คือแบบมาตรฐานกับแบบอาหรับตะวันออก ที่ใช้ในอิหร่าน ปากีสถาน และอินเดีย ในภาษาอาหรับเรียกเลขนี้ว่า ตัวเลขอินเดีย (هنديه أرقام arqām hindiyyah) ในแอฟริกาเหนือปัจจุบันใช้ตัวเลขแบบตะวันตก ในยุคกลางมีการใช้ตัวเลขแบบตะวันตกที่ต่างไปเล็กน้อย (เช่นจากอิตาลี) การเขียนตัวเลขต่างจากตัวอักษรคือเขียนจากซ้ายไปขวา
นอกจากนี้อักษรอาหรับใช้แทนเลขได้ด้วยแต่ใช้น้อยในปัจจุบัน การใช้ขึ้นกับอันดับอับญะดีย์ เช่น ا= 1 ب = 2 ج= 3 จนกระทั่ง 1000 = غ
อักษรอาหรับและการทับศัพท์
[แก้]ข้อ | อักษร | ชื่ออักษร | ภาษาไทย | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
1 | ﺀ/ ا | ฮัมซะฮ์/อลิฟ | อ, สระ อา | |
2 | ﺏ | บาอ์ | บ | |
3 | ﺕ | ตาอ์ | ต | |
4 | ﺙ | ษาอ์ | ษ | |
5 | ﺝ | ญีม | ญ, จญ์ | ญะวาด, ฮัจญ์, ฮิจญ์เราะฮ์, ฮิญิร |
6 | ﺡ | หาอ์ | ฮ | |
7 | ﺥ | คออ์ | ค | |
8 | ﺩ | ดาล | ด | |
9 | ﺫ | ษาล | ษ | |
10 | ﺭ | รออ์ | ร |
|
11 | ﺯ | ซัย | ซ |
|
12 | ﺱ | ซีน | ซ, ส |
|
13 | ﺵ | ชีน | ช | |
14 | ﺹ | ศ้อด | ศ |
|
15 | ﺽ | ฎ๊อด | ฎ |
|
16 | ﻁ | ฏออ์ | ฏ |
|
17 | ﻅ | ซออ์ | ซ |
|
18 | ﻉ | อัยน์ | อ |
|
19 | ﻍ | ฆอยน์ | ฆ |
|
20 | ﻑ | ฟาอ์ | ฟ | |
21 | ﻕ | ก๊อฟ | ก |
|
22 | ﻙ | ก๊าฟ | ก | |
23 | ﻝ | ลาม | ล | |
24 | ﻡ | มีม | ม | |
25 | ﻥ | นูน | น | |
26 | ﻭ | วาว | ว | |
27 | ﻩ | ฮาอ์ | ฮ, ห |
|
28 | ﻱ | ยาอ์ | ย |
|
ข้อ | คำอ่าน | เสียงสระ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
1 | ฟัตฮะฮ์ | สระอะ | ถ้าตัว خ, ر, ص, ض, ط, ظ ,غ, ق เจอกับฟัตฮะฮ์ จะเป็นสระเอาะ |
2 | กัสเราะฮ์ | สระอิ | |
3 | ฎ็อมมะฮ์ | สระอุ | |
4 | ฟัตฮะฮ์ + อลิฟ | สระอา | เสียงยาว ถ้าเป็น خ, ر, ص, ض, ط, ظ, غ, ق เจอกับฟัตฮะฮ์อลิฟ จะเป็นสระออ |
5 | กัสเราะฮ์ + ยาอ์ | สระอี | เสียงยาว |
6 | ฎ็อมมะฮ์ + วาว | สระอู | เสียงยาว |
7 | ฟัตฮะฮ์ + ยาอ์ | อัย, เอ | ถ้าพยางค์นั้นลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นซุกูน จะเป็น สระเอ เช่น <ฮุเซน>, ถ้าเป็น خ, ر ,ص ,ض, ط, ظ, غ, ق เจอกับฟัตฮะฮ์ + ยาอ์ จะเป็นสระอ็อย |
8 | ฟัตฮะฮ์ + วาว | เอา เช่น <เลา> | ถ้าเป็น خ, ر, ص, ض, ط, ظ, غ, ق จะเป็นสระอ็อว |
หมายเหตุ
[แก้]- ไม้ไต่คู้และสระออ <-็อ> ใช้กับ <ฎ>, <ฏ>, <ศ> เมื่อถอดรูปฟัตฮะฮ์ เช่น <ฎ็อ>, <ฏ็อ> <ศ็อ> และ <ก็อ>ถ้ามีตัวสะกด แต่อาจจะไม้ไต่คู้ละไว้ในฐานที่เข้าใจ เช่น <ฎอ>, <ฏอ> และ <ศอ>
- ไม้เอกและสระออ< -่อ> ใช้กับ <ร> เมื่อถอดรูปฟัตฮะฮ์ เช่น <ร่อซูล> แต่อาจจะละไว้ในฐานเข้าใจ เช่น <รอซูล>
- ไม่มีการตัดสระอะเมื่อถอดรูปฟัตฮะฮ์ นอกจากคำว่า นบี, อลิฟ เท่านั้น เช่น <อบูบักรฺ> จะต้องเป็น <อะบูบักรฺ>
ยูนิโคด
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ Zitouni, Imed (2014). Natural Language Processing of Semitic Languages. Springer Science & Business. p. 15. ISBN 978-3642453588.
- ↑ "The World's 5 Most Commonly Used Writing Systems". Encyclopedia Britannica (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-08-11.
- ↑ ดูที่ ʾalif maqṣūrah ที่ อลิฟ ในภาษาอาหรับ
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Shaalan, Khaled; Raza, Hafsa (August 2009). "NERA: Named entity recognition for Arabic". Journal of the American Society for Information Science and Technology. 60 (8): 1652–1663. doi:10.1002/asi.21090.
- Arabic alphabet learning resources