ข้ามไปเนื้อหา

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พรีเมียร์ลีก
ฤดูกาล2021–22
วันที่13 สิงหาคม ค.ศ. 2021 – 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022
ทีมชนะเลิศแมนเชสเตอร์ซิตี
แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 6
แชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษสมัยที่ 8
ตกชั้น
แชมเปียนส์ลีก
ยูโรปาลีก
ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีกเวสต์แฮมยูไนเต็ด
จำนวนนัด380
จำนวนประตู1,071 (2.82 ประตูต่อนัด)
ผู้ทำประตูสูงสุด
ทีมเหย้า
ชนะสูงสุด
ทีมเยือน
ชนะสูงสุด
จำนวนประตูสูงสุด
ชนะติดต่อกัน
มากที่สุด
  • 12 นัด
  • แมนเชสเตอร์ซิตี
ไม่แพ้ติดต่อกัน
มากที่สุด
  • 15 นัด
  • แมนเชสเตอร์ซิตี
  • ลิเวอร์พูล
ไม่ชนะติดต่อกัน
มากที่สุด
แพ้ติดต่อกัน
มากที่สุด
จำนวนผู้ชมสูงสุด
จำนวนผู้ชมต่ำสุด
จำนวนผู้ชมรวม11,665,166 คน[1][1]
จำนวนผู้ชมเฉลี่ย39,677 คน[1]

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22 เป็นการแข่งขันฤดูกาลที่ 30 ของพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1992 และเป็นฤดูกาลที่สามที่ใช้ระบบผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ (วีเออาร์)[2] วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของฤดูกาลการแข่งขันประกาศเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2021[3] และตารางการแข่งขันประกาศเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2021[4][5]

แมนเชสเตอร์ซิตี คือทีมที่ป้องกันแชมป์ในฤดูกาลนี้ หลังพวกเขาชนะเลิศพรีเมียร์ลีกสมัยที่ห้าในฤดูกาลที่แล้ว

ฤดูกาลนี้เห็นการกลับมาของการให้ผู้ชมเข้ามาชมในสนามเต็มความจุ หลังในช่วงท้ายฤดูกาล 2019–20 และทั้งฤดูกาล 2020–21 จัดการแข่งขันโดยให้ผู้ชมเข้าชมอย่างจำกัดหรือไม่มีผู้ชมเลย เนื่องจากข้อจำกัดที่เกิดจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ในสหราชอาณาจักร[6] ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่สองที่มีการพักช่วงกลางฤดูกาล โดยไม่มีการแข่งขันพรีเมียร์ลีกระหว่างวันที่ 23 มกราคม ถึง 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022[7]

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2021 มีการแข่งขันหลายนัดถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากเกิดการระบาดทั่วของโควิด-19 ในหลายสโมสร โดยแต่ละสโมสรเรียกร้องให้ลีกหยุดการแข่งขันจนถึงปี ค.ศ. 2022[8] หลังการประชุมเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมระหว่าง 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีก ได้มีการตัดสินใจที่จะทำให้การแข่งขันดังกล่าวสำเร็จในช่วงคริสต์มาส "ซึ่งจะทำได้อย่างปลอดภัย" สโมสรต่าง ๆ ได้รับคำแนะนำว่าหากมีผู้เล่นพร้อมทั้งหมด 13 คน รวมถึงผู้รักษาประตูด้วย พวกเขาควรจะทำการแข่งขันให้สำเร็จ[9]

สรุป

[แก้]

แมนเชสเตอร์ซิตี เป็นแชมป์เก่า โดยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 5 ในฤดูกาลที่แล้ว

ฤดูกาลนี้เห็นการกลับมาของผู้ชมเต็มสนาม หลังจากผู้ชม 1/3 ในฤดูกาล 2019-20 และผู้ชมเต็มสนามในฤดูกาล 2020-21[10] ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่สองที่มีช่วงพักฤดูหนาว โดยไม่มีการแข่งขันในพรีเมียร์ลีกระหว่างวันที่ 23 มกราคมถึง 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022[11]

การต่อสู้เพื่อตำแหน่งจ่าฝูง

[แก้]

การแข่งขันช่วงแรกเป็นการแข่งขันระหว่างลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ซิตี และเชลซี ซึ่งห่างกันสองแต้มในต้นเดือนธันวาคม ในเดือนธันวาคม เชลซีเป็นผู้นำหลังจากพ่ายแพ้เพียงนัดเดียวจาก 14 นัด จนกระทั่งความพ่ายแพ้อย่างช็อคกับเวสต์แฮมยูไนเต็ดทำให้ซิตีได้เปรียบ[12] ชัยชนะต่อเนื่องกัน 12 นัด จบลงด้วยชัยชนะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหนือเชลซีซึ่งทำให้ความหวังในการคว้าแชมป์ของพวกเขาจบลง ทำให้แมนฯ ซิตี ขึ้นนำ 13 แต้มภายในเดือนมกราคม (แม้ว่าลิเวอร์พูลจะมีสองเกมในมือเนื่องจากการเลื่อนการแข่งขันจากสถานการณ์โควิด-19)[13] จากนั้นลิเวอร์พูลก็เก็บชัยชนะ 10 เกมรวด รวมทั้งสองเกมในมือ เพื่อลดช่องว่างกับซิตีให้เหลือเพียงแต้มเดียวก่อนการเจอกันที่ เอทิฮัด สเตเดียม ในวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน ผลเสมอ 2-2 ทำให้ซิตียังคงนำไปจนถึงสัปดาห์สุดท้ายของฤดูกาล[14]

การเข้าซื้อกิจการของนิวคาสเซิล

[แก้]

ในวันพุธที่ 7 ตุลาคม กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ ของซาอุดีอาระเบียได้ซื้อหุ้น 80% เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการนิวคาสเซิลยูไนเต็ดมูลค่า 300 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการถือครองสโมสร 14 ปีของไมค์ แอชลีย์ ในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2021 มีการประชุมฉุกเฉินโดยอีก 19 สโมสรในพรีเมียร์ลีก ซึ่งพวกเขาแสดงความโกรธเคืองต่อการตัดสินใจของลีกในการอนุมัติการเทคโอเวอร์ นิวคาสเซิลยูไนเต็ดเป็นสโมสรเดียวในพรีเมียร์ลีกที่ถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมการประชุม[15] ในวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 สโมสรในพรีเมียร์ลีกได้ลงคะแนนให้ควบคุมอำนาจทางการเงินของพรีเมียร์ลีกเพื่อจำกัดอำนาจการใช้จ่ายของนิวคาสเซิลยูไนเต็ด[16]

ในช่วงเวลาการเข้าซื้อกิจการ นิวคาสเซิลอยู่ในอันดับที่ 19 โดยไม่ชนะใครจาก 7 เกมแรกของพวกเขา เจ้าของคนใหม่ปลด สตีฟ บรูซ และจ้าง เอ็ดดี ฮาว ในขณะที่นิวคาสเซิ่ลไม่ชนะการแข่งขันจนกระทั่งนัดที่ 15 ฟอร์มของพวกเขาดีขึ้นอย่างมากหลังจากการเซ็นสัญญากับนักเตะ 5 คนในตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมคือ ซื้อ คีแรน ทริปเปียร์ จาก อัตเลติโกมาดริด ยืม แมตต์ ทาร์เก็ตต์ จาก แอสตันวิลลา (ก่อนจะซื้อขาดเมื่อจบฤดูกาลด้วยราคา 15 ล้านปอนด์) ซื้อ แดน เบิร์น จาก ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ซื้อ คริส วูด จาก เบิร์นลีย์ และซื้อ บรูนู กีมาไรส์ จาก โอลิมปิกลียง ชัยชนะ 12 นัดจาก 18 นัดสุดท้ายของฤดูกาลทำให้พวกเขาจบในอันดับที่ 11

ทีม

[แก้]

ทีมที่เข้าแข่งขันในฤดูกาลนี้มีทั้งหมด 20 ทีม โดยแบ่งเป็น 17 ทีมมาจากฤดูกาลก่อนหน้านี้และ 3 ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากอีเอฟแอลแชมเปียนชิป ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมา ได้แก่ นอริชซิตี, วอตฟอร์ด (ทั้งสองทีมตกชั้นหลังแข่งขันในพรีเมียร์ลีกหนึ่งปี) และเบรนต์ฟอร์ด กลับมาหลังตกชั้นไปเจ็ดสิบสี่ปี นี่จะเป็นฤดูกาลแรกของเบรนต์ฟอร์ดในพรีเมียร์ลีกด้วย[17] โดยทั้งสามทีมแทนที่ ฟูลัม, เวสต์บรอมมิชอัลเบียน (ทั้งสองทีมตกชั้นหลังแข่งขันในพรีเมียร์ลีกหนึ่งปี) และ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด (ตกชั้นหลังจากกลับมาสองปีในลีกสูงสุด)

สนามและที่ตั้ง

[แก้]
พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ
ลอนดอน
ลอนดอน
เมอร์ซีย์ไซด์
เมอร์ซีย์ไซด์
แอสตันวิลลา
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน
เบิร์นลีย์
ลีดส์ ยูไนเต็ด
เลสเตอร์ ซิตี
แมนเชสเตอร์ซิตี
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
นอริช ซิตี
เซาแทมป์ตัน
วอตฟอร์ด
วุลเวอร์แฮมป์ตัน วอนเดอเรอส์
ทีมจากลอนดอน: อาร์เซนอล เบรนต์ฟอร์ด เชลซี คริสตัลพาเลซ ทอตนัมฮอตสเปอร์ เวสต์แฮมยูไนเต็ด
ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์: เอฟเวอร์ตัน ลิเวอร์พูล
ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์:
เอฟเวอร์ตัน
ลิเวอร์พูล
ที่ตั้งของทีมในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22
ที่ตั้งของทีมจากลอนดอน
ทีม ที่ตั้ง สนาม ความจุ
อาร์เซนอล ลอนดอน (ฮอลโลเวย์) เอมิเรตส์สเตเดียม 60,704
แอสตันวิลลา เบอร์มิงแฮม วิลลาพาร์ก 42,682
เบรนต์ฟอร์ด ลอนดอน (เบรนต์ฟอร์ด) เบรนต์ฟอร์ดคอมมิวนิตีสเตเดียม 17,250
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ไบรตัน สนามกีฬาฟัลเมอร์ 30,750
เบิร์นลีย์ เบิร์นลีย์ เทิร์ฟมัวร์ 21,944
เชลซี ลอนดอน (ฟูลัม) สแตมฟอร์ดบริดจ์ 40,834
คริสตัลพาเลซ ลอนดอน (เซลเฮิสต์) เซลเฮิสต์พาร์ก 25,486
เอฟเวอร์ตัน ลิเวอร์พูล (วอลตัน) กูดิสันพาร์ก 39,414
ลีดส์ยูไนเต็ด ลีดส์ เอลแลนด์โรด 37,792
เลสเตอร์ซิตี เลสเตอร์ คิงเพาเวอร์สเตเดียม 32,312
ลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล (แอนฟีลด์) แอนฟีลด์ 53,394
แมนเชสเตอร์ซิตี แมนเชสเตอร์ สนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์ 55,017
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ (โอลด์แทรฟฟอร์ด) โอลด์แทรฟฟอร์ด 74,140
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด นิวคาสเซิลอะพอนไทน์ เซนต์เจมส์พาร์ก 52,305
นอริชซิตี นอริช แคร์โรว์โรด 27,244
เซาแทมป์ตัน เซาแทมป์ตัน เซนต์แมรีส์สเตเดียม 32,384
ทอตนัมฮอตสเปอร์ ลอนดอน (ทอตนัม) ทอตนัมฮอตสเปอร์สเตเดียม 62,303
วอตฟอร์ด วอตฟอร์ด วิคาริจโรด 22,200
เวสต์แฮมยูไนเต็ด ลอนดอน (สแตรตเฟิร์ด) ลอนดอนสเตเดียม 60,000
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ วุลเวอร์แฮมป์ตัน มอลินิว 32,050

บุคลากรและชุดแข่งขัน

[แก้]
ทีม ผู้จัดการทีม กัปตัน ผู้ผลิตชุด ผู้สนับสนุน (อก) ผู้สนับสนุน (แขนซ้าย)
อาร์เซนอล สเปน อาร์เตตา, มิเกลมิเกล อาร์เตตา ฝรั่งเศส อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ตa[18] อาดิดาส[19] ฟลายเอมิเรตส์[20] วิสิตรวันดา[21]
แอสตันวิลลา อังกฤษ เจอร์ราร์ด, สตีเวนสตีเวน เจอร์ราร์ด อังกฤษ มิงส์, ไทโรนไทโรน มิงส์ แคปปา[22] คาซู[23] โอบีสปอตส์[24]
เบรนต์ฟอร์ด เดนมาร์ก ฟรังก์, ทอแมสทอแมส ฟรังก์ สวีเดน พ็อนตุส ยอนซ็อน อัมโบร ฮอลลีวูดเบ็ตส์[25] เซฟตีคัลเจอร์
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน อังกฤษ พอตเตอร์, แกรแฮมแกรแฮม พอตเตอร์ อังกฤษ ดังก์, ลูวิสลูวิส ดังก์ ไนกี้[26] อเมริกันเอ็กซ์เพรส[26] สนิกเกอร์สยูเค.คอม[27]
เบิร์นลีย์ อังกฤษ ไมก์ แจ็กสัน
อังกฤษ คอนเนอร์ คิง
อังกฤษ เบน มี (ดูแลร่วมกัน) 		อังกฤษ เบน มี อัมโบร สเพรเดกซ์สปอร์ตส์[28] แอสโตรเพย์[29]
เชลซี เยอรมนี ทุคเคิล, โทมัสโทมัส ทุคเคิล สเปน อัซปิลิกูเอตา, เซซาร์เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา ไนกี้[30] ทรี[31] ฮุนได[32]
คริสตัลพาเลซ ฝรั่งเศส วีเยรา, ปาทริกปาทริก วีเยรา เซอร์เบีย มิลิวอเยวิช, ลูคาลูคา มิลิวอเยวิช พูมา[33] ดับบลิว88[34] ไอคอนิก[35]
เอฟเวอร์ตัน อังกฤษ แฟรงก์ แลมพาร์ด สาธารณรัฐไอร์แลนด์ โคลแมน, เชมัสเชมัส โคลแมน ฮัมเมล[36] คาซู[37] ไม่มี
ลีดส์ยูไนเต็ด สหรัฐอเมริกา เจสซี มาร์ช สกอตแลนด์ เลียม คูเปอร์ อาดิดาส[38] เอสบีโอท็อป[39] BOXT
เลสเตอร์ซิตี ไอร์แลนด์เหนือ ร็อดเจอส์, เบรนดันเบรนดัน ร็อดเจอส์ เดนมาร์ก สไมเกิล, แคสเปอร์แคสเปอร์ สไมเกิล อาดิดาส[40] เอฟบีเอส[41] เบียร์ไซ่ง่อน[42]
ลิเวอร์พูล เยอรมนี คล็อพ, เยือร์เกินเยือร์เกิน คล็อพ อังกฤษ เฮนเดอร์สัน, จอร์แดนจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไนกี้[43] สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด[44] เอกซ์พีเดีย[45]
แมนเชสเตอร์ซิตี สเปน กวาร์ดิออลา, แป็ปแป็ป กวาร์ดิออลา บราซิล เฟร์นังจิญญู, เฟร์นังจิญญู[46] พูมา[47] เอทิฮัดแอร์เวส์[48] เน็กซ์เซนไทร[49]
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เยอรมนี รัล์ฟ รังนิค (ชั่วคราว) อังกฤษ แฮร์รี แมไกวร์ อาดิดาส[50] ทีมวิวเวอร์[51] โคห์เลอร์[52]
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด อังกฤษ ฮาว, เอ็ดดีเอ็ดดี ฮาว อังกฤษ ลาสเซลส์, จามาลจามาล ลาสเซลส์ คาสโตร[53] ฟัน88[54] คายัค[55]
นอริชซิตี อังกฤษ ดีน สมิท สกอตแลนด์ แกรนต์ แฮนลีย์ โจมา[56] รถยนต์โลตัส[57] เจดีสปอร์ตส์[58]
เซาแทมป์ตัน ออสเตรีย ฮาเซินฮึทเทิล, รัล์ฟรัล์ฟ ฮาเซินฮึทเทิล อังกฤษ วอร์ด-พราวส์, เจมส์เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ฮัมเมล สปอร์ตเบ็ต.ไอโอ[59] เวอร์จินมีเดีย[60]
ทอตนัมฮอตสเปอร์ อิตาลี อันโตนีโอ กอนเต ฝรั่งเศส โยริส, อูว์โกอูว์โก โยริส ไนกี้[61] เอไอเอ[62] ซินช์[63]
วอตฟอร์ด อังกฤษ รอย ฮอดจ์สัน รอประกาศb เคลเม[64] สเกต.คอม[65] โดชคอยน์[66]
เวสต์แฮมยูไนเต็ด สกอตแลนด์ มอยส์‎, เดวิดเดวิด มอยส์‎ อังกฤษ โนเบิล, มาร์กมาร์ก โนเบิล อัมโบร เบ็ตเวย์ สโคปมาร์เกตส์[67]
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ โปรตุเกส ลาฌึ, บรูนูบรูนู ลาฌึ อังกฤษ โคอาดี, คอเนอร์คอเนอร์ โคอาดี คาสโตร[68] แมนเบ็ตเอ็กซ์[69] Bitci.com[70]
a.^ ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ เคยเป็นกัปตันทีมของอาร์เซนอลจนถึงวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2021 เขาถูกปลดจากตำแหน่งหลังการละเมิดวินัย;[71] เขาถูกปล่อยตัวออกจากสโมสรเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีม โดยพฤตินัย จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์[72] เมื่อเขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกัปตันทีมอย่างเป็นทางการ[73]
b.^ ทรอย ดีนีย์ เคยเป็นกัปตันทีมของวอตฟอร์ตช่วงต้นฤดูกาล แต่เขาออกจากสโมสรเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม และยังไม่มีการแต่งตั้งกัปตันทีมอย่างเป็นทางการจากสโมสร มูซา ซีซอโก ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีม โดยพฤตินัย

การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม

[แก้]
ทีม ผู้จัดการที่ออก สาเหตุที่ออก วันที่ตำแหน่งว่าง อันดับในตารางคะแนน ผู้จัดการคนใหม่ วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
คริสตัลพาเลซ อังกฤษ ฮอดจ์สัน, รอยรอย ฮอดจ์สัน[74] สิ้นสุดสัญญา 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 ก่อนเปิดฤดูกาล ฝรั่งเศส วีเยรา, ปาทริกปาทริก วีเยรา[75] 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2021
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ โปรตุเกส เอสปีรีตู ซังตู, นือนูนือนู เอสปีรีตู ซังตู[76] ยินยอมร่วมกัน โปรตุเกส ลาฌึ, บรูนูบรูนู ลาฌึ[77] 9 มิถุนายน ค.ศ. 2021
เอฟเวอร์ตัน อิตาลี การ์โล อันเชลอตตี[78] เซ็นสัญญากับเรอัลมาดริด 1 มิถุนายน ค.ศ. 2021 สเปน เบนิเตซ, ราฟาเอลราฟาเอล เบนิเตซ[79] 30 มิถุนายน ค.ศ. 2021
ทอตนัมฮอตสเปอร์ อังกฤษ เมสัน, ไรอันไรอัน เมสัน[80] สิ้นสุดการรักษาการแทน 30 มิถุนายน ค.ศ. 2021 โปรตุเกส ซังตู, นูนู อึชปีรีตูนูนู อึชปีรีตู ซังตู[81]
วอตฟอร์ด สเปน ซิสโก มุญโญซ[82] ถูกไล่ออก 3 ตุลาคม ค.ศ. 2021 อันดับที่ 14 อิตาลี รานีเอรี, เกลาดีโอเกลาดีโอ รานีเอรี[83] 4 ตุลาคม ค.ศ. 2021
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด อังกฤษ บรูซ, สตีฟสตีฟ บรูซ[84] ยินยอมร่วมกัน 20 ตุลาคม ค.ศ. 2021 อันดับที่ 19 อังกฤษ โจนส์, แกรมีแกรมี โจนส์[85] 20 ตุลาคม ค.ศ. 2021
ทอตนัมฮอตสเปอร์ โปรตุเกส อึชปีรีตู ซังตู, นูนูนูนู อึชปีรีตู ซังตู[86] ถูกไล่ออก 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 อันดับที่ 8 อิตาลี อันโตนีโอ กอนเต[87] 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
นอริชซิตี เยอรมนี ฟาร์เคอ, ดานีเอิลดานีเอิล ฟาร์เคอ[88] 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 อันดับที่ 20 อังกฤษ ดีน สมิท[89] 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
แอสตันวิลลา อังกฤษ ดีน สมิท[90] 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 อันดับที่ 15 อังกฤษ เจอร์ราด, สตีเวนสตีเวน เจอร์ราด[91] 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด อังกฤษ โจนส์, แกรมีแกรมี โจนส์[92] สิ้นสุดการรักษาการแทน 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 อันดับที่ 19 อังกฤษ เอ็ดดี ฮาว[92] 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด นอร์เวย์ อูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์[93] ถูกไล่ออก 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 อันดับที่ 7 อังกฤษ ไมเคิล แคร์ริก[93] 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
อังกฤษ ไมเคิล แคร์ริก[94] สิ้นสุดการรักษาการแทน 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 อันดับที่ 8 เยอรมนี รัล์ฟ รังนิค (ชั่วคราว)[95] 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
เอฟเวอร์ตัน สเปน ราฟาเอล เบนิเตซ[96] ถูกไล่ออก 16 มกราคม ค.ศ. 2022 อันดับที่ 15 สกอตแลนด์ ดันแคน เฟอร์กูสัน (รักษาการ)[97] 18 มกราคม ค.ศ. 2022
วอตฟอร์ด อิตาลี เกลาดีโอ รานีเอรี[98] 24 มกราคม ค.ศ. 2022 อันดับที่ 19 อังกฤษ รอย ฮอดจ์สัน[99] 25 มกราคม ค.ศ. 2022
เอฟเวอร์ตัน สกอตแลนด์ ดันแคน เฟอร์กูสัน สิ้นสุดการรักษาการแทน[100] 30 มกราคม ค.ศ. 2022 อันดับที่ 16 อังกฤษ แฟรงก์ แลมพาร์ด[101] 30 มกราคม ค.ศ. 2022
ลีดส์ยูไนเต็ด อาร์เจนตินา มาร์เซโล บิเอลซา[102] ถูกไล่ออก 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 สหรัฐอเมริกา เจสซี มาร์ช[103] 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022
เบิร์นลีย์ อังกฤษ ชอน ไดช์[104] 15 เมษายน ค.ศ. 2022 อันดับที่ 18 อังกฤษ ไมก์ แจ็กสัน
อังกฤษ คอนเนอร์ คิง
อังกฤษ เบน มี (ดูแลร่วมกัน)[104] 		15 เมษายน ค.ศ. 2022

ตารางคะแนน

[แก้]
อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบหรือการตกชั้น
1 แมนเชสเตอร์ซิตี (C) 38 29 6 3 99 26 +73 93 ผ่านเข้าสู่ แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
2 ลิเวอร์พูล 38 28 8 2 94 26 +68 92
3 เชลซี 38 21 11 6 76 33 +43 74
4 ทอตนัมฮอตสเปอร์ 38 22 5 11 69 40 +29 71
5 อาร์เซนอล 38 22 3 13 61 48 +13 69 ผ่านเข้าสู่ ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม[a]
6 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 38 16 10 12 57 57 0 58
7 เวสต์แฮมยูไนเต็ด 38 16 8 14 60 51 +9 56 ผ่านเข้าสู่ ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก รอบเพลย์ออฟ[a]
8 เลสเตอร์ซิตี 38 14 10 14 62 59 +3 52
9 ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 38 12 15 11 42 44 −2 51
10 วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 38 15 6 17 38 43 −5 51
11 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 38 13 10 15 44 62 −18 49
12 คริสตัลพาเลซ 38 11 15 12 50 46 +4 48
13 เบรนต์ฟอร์ด 38 13 7 18 48 56 −8 46
14 แอสตันวิลลา 38 13 6 19 52 54 −2 45
15 เซาแทมป์ตัน 38 9 13 16 43 67 −24 40
16 เอฟเวอร์ตัน 38 11 6 21 43 66 −23 39
17 ลีดส์ยูไนเต็ด 38 9 11 18 42 79 −37 38
18 เบิร์นลีย์ (R) 38 7 14 17 34 53 −19 35 ตกชั้นสู่ อีเอฟแอลแชมเปียนชิป
19 วอตฟอร์ด (R) 38 6 5 27 34 77 −43 23
20 นอริชซิตี (R) 38 5 7 26 23 84 −61 22
แหล่งที่มา : พรีเมียร์ลีก
กฎการจัดอันดับ : 1) คะแนน; 2) ผลต่างประตู; 3) ประตูรวม; 4) หากทีมที่ชนะเลิศ, ทีมที่ตกชั้นหรือทีมที่ผ่านเข้าสู่การแข่งขันของยูฟ่า ไม่สามารถตัดสินได้ตามกฎ 1 ถึง 3, จะมีการบังคับใช้กฎ 4.1 ถึง 4.3 – 4.1) คะแนนที่ได้จากเฮด-ทู-เฮดระหว่างทีมดังกล่าว; 4.2) ประตูทีมเยือนจากเฮด-ทู-เฮดระหว่างทีมดังกล่าว; 4.3) เพลย์ออฟ[106]
(C) ชนะเลิศ; (R) ตกชั้น.
หมายเหตุ :
  1. ↑ 1.0 1.1 ตั้งแต่ผู้ชนะเลิศของ อีเอฟแอลคัพ ฤดูกาล 2021–22 และ เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2021–22 คือ ลิเวอร์พูล ซึ่งผ่านเข้ารอบแชมเปียนส์ลีกแล้ว ทำให้สิทธิ์ของผู้ชนะเลิศเอฟเอคัพ (ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม) ถูกส่งต่อให้ทีมอันดับที่หกและสิทธิ์ของผู้ชนะเลิศอีเอฟแอลคัพ (ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก รอบเพลย์ออฟ) ถูกส่งต่อให้ทีมอันดับที่เจ็ด[105]

ผลการแข่งขัน

[แก้]
เหย้า / เยือน ARS AVL BRE BHA BUR CHE CRY EVE LEE LEI LIV MCI MUN NEW NOR SOU TOT WAT WHU WOL
อาร์เซนอล — 3–1 2–1 1–2 0–0 0–2 2–2 5–1 2–1 2–0 0–2 1–2 3–1 2–0 1–0 3–0 3–1 1–0 2–0 2–1
แอสตันวิลลา 0–1 — 1–1 2–0 1–1 1–3 1–1 3–0 3–3 2–1 1–2 1–2 2–2 2–0 2–0 4–0 0–4 0–1 1–4 2–3
เบรนต์ฟอร์ด 2–0 2–1 — 0–1 2–0 0–1 0–0 1–0 1–2 1–2 3–3 0–1 1–3 0–2 1–2 3–0 0–0 2–1 2–0 1–2
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 0–0 0–2 2–0 — 0–3 1–1 1–1 0–2 0–0 2–1 0–2 1–4 4–0 1–1 0–0 2–2 0–2 2–0 3–1 0–1
เบิร์นลีย์ 0–1 1–3 3–1 1–2 — 0–4 3–3 3–2 1–1 0–2 0–1 0–2 1–1 1–2 0–0 2–0 1–0 0–0 0–0 1–0
เชลซี 2–4 3–0 1–4 1–1 1–1 — 3–0 1–1 3–2 1–1 2–2 0–1 1–1 1–0 7–0 3–1 2–0 2–1 1–0 2–2
คริสตัลพาเลซ 3–0 1–2 0–0 1–1 1–1 0–1 — 3–1 0–0 2–2 1–3 0–0 1–0 1–1 3–0 2–2 3–0 1–0 2–3 2–0
เอฟเวอร์ตัน 2–1 0–1 2–3 2–3 3–1 1–0 3–2 — 3–0 1–1 1–4 0–1 1–0 1–0 2–0 3–1 0–0 2–5 0–1 0–1
ลีดส์ยูไนเต็ด 1–4 0–3 2–2 1–1 3–1 0–3 1–0 2–2 — 1–1 0–3 0–4 2–4 0–1 2–1 1–1 0–4 1–0 1–2 1–1
เลสเตอร์ซิตี 0–2 0–0 2–1 1–1 2–2 0–3 2–1 1–2 1–0 — 1–0 0–1 4–2 4–0 3–0 4–1 2–3 4–2 2–2 1–0
ลิเวอร์พูล 4–0 1–0 3–0 2–2 2–0 1–1 3–0 2–0 6–0 2–0 — 2–2 4–0 3–1 3–1 4–0 1–1 2–0 1–0 3–1
แมนเชสเตอร์ซิตี 5–0 3–2 2–0 3–0 2–0 1–0 0–2 3–0 7–0 6–3 2–2 — 4–1 5–0 5–0 0–0 2–3 5–1 2–1 1–0
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3–2 0–1 3–0 2–0 3–1 1–1 1–0 1–1 5–1 1–1 0–5 0–2 — 4–1 3–2 1–1 3–2 0–0 1–0 0–1
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2–0 1–0 3–3 2–1 1–0 0–3 1–0 3–1 1–1 2–1 0–1 0–4 1–1 — 1–1 2–2 2–3 1–1 2–4 1–0
นอริชซิตี 0–5 0–2 1–3 0–0 2–0 1–3 1–1 2–1 1–2 1–2 0–3 0–4 0–1 0–3 — 2–1 0–5 1–3 0–4 0–0
เซาแทมป์ตัน 1–0 1–0 4–1 1–1 2–2 0–6 1–2 2–0 1–0 2–2 1–2 1–1 1–1 1–2 2–0 — 1–1 1–2 0–0
ทอตนัมฮอตสเปอร์ 3–0 2–1 2–0 0–1 1–0 0–3 3–0 5–0 2–1 3–1 2–2 1–0 0–3 5–1 3–0 2–3 — 1–0 3–1 0–2
วอตฟอร์ด 2–3 3–2 1–2 0–2 1–2 1–2 1–4 0–0 0–3 1–5 0–5 1–3 4–1 1–1 0–3 0–1 0–1 — 1–4 0–2
เวสต์แฮมยูไนเต็ด 1–2 2–1 1–2 1–1 1–1 3–2 2–2 2–1 2–3 4–1 3–2 2–2 1–2 1–1 2–0 2–3 1–0 1–0 — 1–0
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 0–1 2–1 0–2 0–3 0–0 0–0 0–2 2–1 2–3 2–1 0–1 1–5 0–1 2–1 1–1 3–1 0–1 4–0 1–0 —
ที่มา: Premier League
สีฟ้าหมายถึงทีมเหย้าชนะ สีเหลืองหมายถึงเสมอกัน และสีแดงหมายถึงทีมเยือนชนะ
อักษร "a" สำหรับการแข่งขันที่ยังไม่เกิดขึ้นหมายความว่ามีบทความเกี่ยวกับการแข่งขันนัดนี้

สถิติตลอดฤดูกาล

[แก้]

ผู้ทำประตูสูงสุด

[แก้]
อันดับ ผู้เล่น สโมสร ประตู[107]
1 อียิปต์ มุฮัมมัด เศาะลาห์ ลิเวอร์พูล 23
เกาหลีใต้ ซน ฮึง-มิน ทอตนัมฮอตสเปอร์
3 โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 18
4 อังกฤษ แฮร์รี เคน ทอตนัมฮอตสเปอร์ 17
5 เซเนกัล ซาดีโย มาเน ลิเวอร์พูล 16
6 เบลเยียม เกฟิน เดอ เบรยเนอ แมนเชสเตอร์ซิตี 15
อังกฤษ เจมี วาร์ดี เลสเตอร์ซิตี
โปรตุเกส ดีโยกู ฌอตา ลิเวอร์พูล
9 โกตดิวัวร์ วีลฟรีด ซาอา คริสตัลพาเลซ 14
10 อังกฤษ ราฮีม สเตอร์ลิง แมนเชสเตอร์ซิตี 13

แฮท-ทริคส์

[แก้]
ผู้เล่น ทีม พบกับทีม ผล วันที่
โปรตุเกส บรูนู ฟือร์นังดึช แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ลีดส์ยูไนเต็ด 5–1 (H)[108] 14 สิงหาคม ค.ศ. 2021
บราซิล โรแบร์ตู ฟีร์มีนู ลิเวอร์พูล วอตฟอร์ด 5–0 (A)[109] 16 ตุลาคม ค.ศ. 2021
อังกฤษ เมสัน เมานต์ เชลซี นอริชซิตี 7–0 (H)[110] 23 ตุลาคม ค.ศ. 2021
นอร์เวย์ โจชัว คิง วอตฟอร์ด เอฟเวอร์ตัน 5–2 (A)[111]
อียิปต์ มุฮัมมัด เศาะลาห์ ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 5–0 (A)[112] 24 ตุลาคม ค.ศ. 2021
อังกฤษ แจ็ก แฮร์ริสัน ลีดส์ยูไนเต็ด เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3–2 (A)[113] 16 มกราคม ค.ศ. 2022
อังกฤษ ราฮีม สเตอร์ลิง แมนเชสเตอร์ซิตี นอริชซิตี 4–0 (A)[114] 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022
อังกฤษ อิวาน โทนีย์ เบรนต์ฟอร์ด นอริชซิตี 3–1 (A)[115] 5 มีนาคม ค.ศ. 2022
โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทอตนัมฮอตสเปอร์ 3–2 (H)[116] 13 มีนาคม ค.ศ. 2022
เกาหลีใต้ ซน ฮึง-มิน ทอตนัมฮอตสเปอร์ แอสตันวิลลา 4–0 (A)[117] 9 เมษายน ค.ศ. 2022
โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด นอริชซิตี 3–2 (H)[118] 16 เมษายน ค.ศ. 2022
บราซิล กาบรีแยล เฌซุส4 แมนเชสเตอร์ซิตี วอตฟอร์ด 5–1 (H)[119] 23 เมษายน ค.ศ. 2022
เบลเยียม เกฟิน เดอ เบรยเนอ4 แมนเชสเตอร์ซิตี วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 5–1 (A)[120] 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2022
หมายเหตุ

4 ผู้เล่นที่ทำคนเดียว 4 ประตู
(H) – ทีมเหย้า
(A) – ทีมเยือน

อันดับการผ่านบอล

[แก้]
อันดับ ผู้เล่น สโมสร การผ่านบอล[121]
1 อียิปต์ มุฮัมมัด เศาะลาห์ ลิเวอร์พูล 13
2 อังกฤษ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลิเวอร์พูล 12
3 อังกฤษ ฮาร์วีย์ บานส์ เลสเตอร์ซิตี 10
อังกฤษ จาร์ร็อด โบเวน เวสต์แฮมยูไนเต็ด
อังกฤษ เมสัน เมานต์ เชลซี
สกอตแลนด์ แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน ลิเวอร์พูล
7 อังกฤษ รีซ เจมส์ เชลซี 9
อังกฤษ แฮร์รี เคน ทอตนัมฮอตสเปอร์
ฝรั่งเศส ปอล ปอกบา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
10 จาเมกา มิคาอิล อันโตนิโอ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 8
เบลเยียม เกฟิน เดอ เบรยเนอ แมนเชสเตอร์ซิตี
บราซิล กาบรีแยล เฌซุส แมนเชสเตอร์ซิตี
สวีเดน แดยัน กูลูแชฟสกี ทอตนัมฮอตสเปอร์
อังกฤษ เจมส์ แมดดิสัน เลสเตอร์ซิตี

คลีนชีตส์

[แก้]
อันดับ ผู้เล่น สโมสร จำนวนคลีนชีตส์[122]
1 บราซิล อาลีซง ลิเวอร์พูล 20
บราซิล แอแดร์ซง แมนเชสเตอร์ซิตี
3 ฝรั่งเศส อูว์โก โยริส ทอตนัมฮอตสเปอร์ 16
4 เซเนกัล เอดัวร์ แมนดี เชลซี 14
5 อังกฤษ แอรอน แรมส์เดล อาร์เซนอล 12
6 สเปน บิเซนเต กวยตา คริสตัลพาเลซ 11
อาร์เจนตินา เอมิเลียโน มาร์ติเนซ แอสตันวิลลา
โปรตุเกส ฌูแซ ซา วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์
สเปน โรเบร์ต ซันเชซ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน
10 อังกฤษ นิก โพป เบิร์นลีย์ 9

การคาดโทษ

[แก้]

ผู้เล่น

[แก้]

สโมสร

[แก้]
  • ใบเหลืองมากที่สุด: 101[125]
    • ลีดส์ยูไนเต็ด
  • ใบแดงมากที่สุด: 6[126]
    • เอฟเวอร์ตัน

รางวัล

[แก้]

รางวัลประจำเดือน

[แก้]
เดือน ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน ผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือน ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน อ้างอิง
ผู้จัดการทีม สโมสร ผู้เล่น สโมสร ผู้เล่น สโมสร
สิงหาคม โปรตุเกส นูนู อึชปีรีตู ซังตู ทอตนัมฮอตสเปอร์ จาเมกา มิคาอิล อันโตนิโอ เวสต์แฮมยูไนเต็ด อังกฤษ แดนนี อิงส์ แอสตันวิลลา [127][128][129]
กันยายน สเปน มิเกล อาร์เตตา อาร์เซนอล โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อังกฤษ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ เอฟเวอร์ตัน [130][131][132]
ตุลาคม เยอรมนี โทมัส ทุคเคิล เชลซี อียิปต์ มุฮัมมัด เศาะลาห์ ลิเวอร์พูล อียิปต์ มุฮัมมัด เศาะลาห์ ลิเวอร์พูล [133][134][135]
พฤศจิกายน สเปน แป็ป กวาร์ดิออลา แมนเชสเตอร์ซิตี อังกฤษ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สเปน โรดริ แมนเชสเตอร์ซิตี [136][137][138]
ธันวาคม อังกฤษ ราฮีม สเตอร์ลิง แมนเชสเตอร์ซิตี ฝรั่งเศส อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต อาร์เซนอล [139][140][141]
มกราคม โปรตุเกส บรูนู ลาฌึ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ สเปน ดาบิด เด เฆอา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โครเอเชีย มาเตออ กอวาชิช เชลซี [142][143][144]
กุมภาพันธ์ อังกฤษ เอ็ดดี ฮาว นิวคาสเซิลยูไนเต็ด แคเมอรูน ฌอแอล มาติป ลิเวอร์พูล โกตดิวัวร์ วีลฟรีด ซาอา คริสตัลพาเลซ [145][146][147]
มีนาคม สเปน มิเกล อาร์เตตา อาร์เซนอล อังกฤษ แฮร์รี เคน ทอตนัมฮอตสเปอร์ โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด [148][149][150]
เมษายน อังกฤษ ไมก์ แจ็กสัน เบิร์นลีย์ โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ปารากวัย มิเกล อัลมิรอน นิวคาสเซิลยูไนเต็ด [151][152][153]

รางวัลส่วนบุคคล

[แก้]
รางวัล ผู้ชนะเลิศ สโมสร
ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลพรีเมียร์ลีก เบลเยียม เกฟิน เดอ เบรยเนอ[154] แมนเชสเตอร์ซิตี
ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟิล โฟเดน[155]
นักฟุตบอลแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล อียิปต์ มุฮัมมัด เศาะลาห์[156] ลิเวอร์พูล

อ้างอิง

[แก้]
  1. ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 "English Premier League Performance Stats – 2021–22". ESPN. สืบค้นเมื่อ 2 December 2021.
  2. ↑ "Video Assistant Referees Explained | VAR | Premier League". Premier League. 1 June 2020. สืบค้นเมื่อ 1 March 2021.
  3. ↑ "Premier League reveals dates for 2021/22 season". Sky Sports. 25 March 2021. สืบค้นเมื่อ 16 April 2021.
  4. ↑ "Release date for 2021/22 fixtures announced". Premier League. 7 May 2021. สืบค้นเมื่อ 9 May 2021.
  5. ↑ "Premier League fixtures: Your club-by-club guide to the 2021–22 season". BBC Sport. 16 June 2021. สืบค้นเมื่อ 16 June 2021.
  6. ↑ "Crowds to return to sport from 19 July". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 5 July 2021. สืบค้นเมื่อ 25 September 2021.
  7. ↑ "When is the Premier League winter break in 2021-22?". Goal. 21 December 2021. สืบค้นเมื่อ 7 January 2022.
  8. ↑ Dawson, Rob (16 December 2021). "Premier League COVID-19 crisis: Clubs push for shutdown until 2022 - sources". ESPN. สืบค้นเมื่อ 17 December 2021.
  9. ↑ "Premier League & EFL to fulfil fixtures". BBC Sport. 20 December 2021.
  10. ↑ "Crowds to return to sport from 19 July". BBC Sport. 5 July 2021. สืบค้นเมื่อ 25 September 2021.
  11. ↑ "When is the Premier League winter break in 2021–22?". Goal. 21 December 2021. สืบค้นเมื่อ 7 January 2022.
  12. ↑ Karen, Mattias (4 December 2021). "Chelsea loses grip on its place atop Premier League table as Man City surges". The Globe and Mail. สืบค้นเมื่อ 24 May 2022.
  13. ↑ "Kevin De Bruyne fires Manchester City 13 points clear of toothless Chelsea". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 29 May 2022.
  14. ↑ "Manchester City 2-2 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 24 May 2022.
  15. ↑ "Premier League clubs v Newcastle: inside the stunning emergency vote". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 26 May 2022.
  16. ↑ "Premier League clubs vote to block Newcastle sponsorship deals at emergency meeting". The Guardian. 18 October 2021. สืบค้นเมื่อ 2021-11-19.
  17. ↑ "Brentford promoted to Premier League for first time after stinging Swansea". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 1 June 2021.
  18. ↑ McNicholas, James; de Roché, Art. "Arsenal to rely on 'leadership group' after stripping Pierre-Emerick Aubameyang of captaincy". The Athletic (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-12-14.
  19. ↑ "Adidas and Arsenal launch new partnership". Adidas. สืบค้นเมื่อ 1 July 2019.
  20. ↑ "Emirates and Arsenal Renew Sponsorship Deal". emirates.com. สืบค้นเมื่อ 24 February 2019.
  21. ↑ "Arsenal partner with 'Visit Rwanda'". Arsenal FC. สืบค้นเมื่อ 23 May 2018.
  22. ↑ "Aston Villa announce Kappa as Principal Partner". Aston Villa FC. สืบค้นเมื่อ 25 May 2019.
  23. ↑ "Cazoo confirmed as Aston Villa's principal partner". Aston Villa Official Site. 29 June 2020. สืบค้นเมื่อ 2 August 2020.
  24. ↑ "Villa announce OB Sports partnership". Aston Villa Official Site. 22 June 2021. สืบค้นเมื่อ 22 June 2021.
  25. ↑ "Brentford Announce Hollywoodbets as New principal Sponsor". Brentford FC. 29 June 2020. สืบค้นเมื่อ 16 July 2021.
  26. ↑ 26.0 26.1 "New Kit Partnership with Nike". Brighton & Hove Albion FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 June 2014. สืบค้นเมื่อ 6 June 2014.
  27. ↑ "Sleeve sponsor SnickersUK.com joins Amex on Brighton shirt to make local double". SportBusiness. 11 September 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 August 2019. สืบค้นเมื่อ 12 September 2020.
  28. ↑ "PRINCIPAL SHIRT SPONSOR: SPREADEX SPORTS". Burnley FC. 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
  29. ↑ "AstroPay Are Back". Burnley FC. 15 July 2021. สืบค้นเมื่อ 16 July 2021.
  30. ↑ "Chelsea and Nike announce long-term partnership". Chelsea FC. 13 October 2016. สืบค้นเมื่อ 31 August 2020.
  31. ↑ "CHELSEA ANNOUNCES THREE AS NEW OFFICIAL SHIRT PARTNER". Chelsea FC. 21 June 2020. สืบค้นเมื่อ 24 January 2020.
  32. ↑ "Chelsea and Hyundai Begin New Partnership". Chelsea FC. 11 June 2018. สืบค้นเมื่อ 11 June 2018.
  33. ↑ "Revealed: Crystal Palace and Puma 2018/19 Kits". Crystal Palace FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 May 2018. สืบค้นเมื่อ 10 May 2018.
  34. ↑ "Crystal Palace announces shirt sponsorship with W88". Crystal Palace FC. สืบค้นเมื่อ 3 August 2020.
  35. ↑ "Crystal Palace iron out Iqoniq sleeve sponsorship deal". Sportspro Media. สืบค้นเมื่อ 1 September 2020.
  36. ↑ "Everton Agrees Club-Record Kit Deal With hummel". www.evertonfc.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-07-04.
  37. ↑ "Cazoo To Become Everton's New Main Partner". www.evertonfc.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-07-04.
  38. ↑ "adidas becomes official kit partner of Leeds United". www.leedsunited.com (ภาษาอังกฤษ). 21 July 2020. สืบค้นเมื่อ 21 July 2020.
  39. ↑ "SBOTOP ENTERS MULTI-YEAR PARTNERSHIP TO BECOME PRINCIPAL SPONSOR". www.leedsunited.com (ภาษาอังกฤษ). 10 August 2020. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  40. ↑ "Leak Confirmed – Leicester City Announce Adidas Kit Deal". Footy Headlines. 17 May 2018. สืบค้นเมื่อ 18 May 2018.
  41. ↑ "Leicester City & FBS Announce Record New Principal Club Partnership". Leicester City FC. สืบค้นเมื่อ 23 May 2021.
  42. ↑ "Leicester City And ThaiBev Agree Multi-Year Global Partnership". สืบค้นเมื่อ 3 August 2018.
  43. ↑ "LFC announces multi-year partnership with Nike as official kit supplier from 2020-21". Liverpool FC. สืบค้นเมื่อ 7 January 2020.
  44. ↑ "Liverpool renew Standard Chartered sponsorship deal". Reuters. 24 May 2018. สืบค้นเมื่อ 12 January 2020.
  45. ↑ "Liverpool Embarks on a Journey with Expedia". Liverpool Football Club. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  46. ↑ Smith, Jonathan. "'I would love to stay longer' - Guardiola opens up on Man City future". Goal. สืบค้นเมื่อ 20 September 2020.
  47. ↑ "Manchester City strike 10-year kit deal with Puma". Sky Sports. 28 February 2019. สืบค้นเมื่อ 28 February 2019.
  48. ↑ Taylor, Daniel (8 July 2011). "Manchester City bank record £400m sponsorship deal with Etihad Airways". The Guardian. London. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  49. ↑ Edwards, John (17 March 2017). "Man City and Nexen Tire announce Premier League first partnership". Manchester City F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 May 2017. สืบค้นเมื่อ 17 May 2017.
  50. ↑ "Manchester United and Adidas in £750m deal over 10 years". BBC News. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  51. ↑ "Man Utd and TeamViewer announce new principle shirt partnership from 2021/22 season". Manchester United. 19 March 2021. สืบค้นเมื่อ 19 March 2021.
  52. ↑ "Kohler Unveiled as Shirt Sleeve Sponsor". Manchester United. 12 July 2018. สืบค้นเมื่อ 12 July 2018.
  53. ↑ "Castore reportedly agreed deal with leading La Liga club on the eve of Newcastle kit announcement". 29 June 2021.
  54. ↑ "Newcastle United and FUN88 agree new partnership". Newcastle United. 20 July 2020. สืบค้นเมื่อ 18 September 2020.
  55. ↑ "KAYAK named Newcastle United's official shirt sleeve sponsor". Newcastle United. 9 July 2021. สืบค้นเมื่อ 9 July 2021.
  56. ↑ "Club announces Joma as new technical kit partner". Norwich City F.C. (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 1 July 2021. สืบค้นเมื่อ 1 July 2021.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  57. ↑ "Club announces Lotus Cars as new front of shirt sponsor for 2021-22". Norwich City Football Club (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 25 June 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-25. สืบค้นเมื่อ 26 June 2021.
  58. ↑ "Club announces JD as official shirt sleeve sponsor for 2021-22". www.canaries.co.uk (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-07-08. สืบค้นเมื่อ 9 July 2021.
  59. ↑ Daniels, Tom (25 August 2020). "Sportsbet.io becomes new Main Club Sponsor". Insider Sport. สืบค้นเมื่อ 25 August 2020.
  60. ↑ "Virgin Media agree new three-year deal". Southampton FC. 10 May 2019. สืบค้นเมื่อ 11 May 2019.
  61. ↑ "Tottenham Hotspur announces multi-year partnership with Nike". Tottenham Hotspur FC. สืบค้นเมื่อ 30 June 2017.
  62. ↑ "Tottenham Hotspur announce new £320m shirt deal". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 25 July 2019.
  63. ↑ "cinch becomes Club's Official Sleeve Partner". Tottenham Hotspur F.C. 8 January 2021. สืบค้นเมื่อ 8 January 2021.
  64. ↑ "Watford Announces Record Four-Year Kelme Kit Deal". Footy Headlines. 15 May 2020. สืบค้นเมื่อ 1 August 2020.
  65. ↑ "Watford FC & Stake.com Announce New Multi Year Principal Partnership". Watford F.C. 22 July 2021. สืบค้นเมื่อ 22 July 2021.
  66. ↑ "Watford FC to feature Doge on football shirts". CityAM. 16 August 2021. สืบค้นเมื่อ 18 August 2021.
  67. ↑ "West Ham United unveil new sleeve sponsor ahead of the run-in West Ham United". West Ham United FC. 19 June 2020. สืบค้นเมื่อ 19 June 2020.
  68. ↑ "Sir Andy Murray's sportswear brand signs up Wolves in first Premier kit deal". uk.sports.yahoo.com.
  69. ↑ "Wolves sign new lucrative shirt sponsorship deal with ManBetX". Shropshire Star. 4 June 2019. สืบค้นเมื่อ 5 June 2019.
  70. ↑ "Bitci.com become Wolves' new sleeve partners". Wolverhampton Wanderers FC. สืบค้นเมื่อ 2 June 2021.
  71. ↑ "Club update: Pierre-Emerick Aubameyang". Arsenal F.C. 14 December 2021. สืบค้นเมื่อ 15 December 2021.
  72. ↑ McNicholas, James; de Roché, Art (14 December 2021). "Arsenal to rely on 'leadership group' after stripping Pierre-Emerick Aubameyang of captaincy". The Athletic. สืบค้นเมื่อ 15 December 2021.
  73. ↑ "Alexandre Lacazette picks players who could become Arsenal captain after Mikel Arteta decision". football.london. Reach plc. 9 February 2022. สืบค้นเมื่อ 9 February 2022.
  74. ↑ "Roy Hodgson to step down as Crystal Palace manager". Crystal Palace F.C. 18 May 2021. สืบค้นเมื่อ 23 May 2021.
  75. ↑ "Patrick Vieira appointed as manager". Crystal Palace F.C. 4 July 2021. สืบค้นเมื่อ 4 July 2021.
  76. ↑ "Nuno set to leave Wolves". Wolverhampton Wanderers F.C. 21 May 2021. สืบค้นเมื่อ 21 May 2021.
  77. ↑ "Lage becomes new Wolves head coach". Wolverhampton Wanderers F.C. 9 June 2021. สืบค้นเมื่อ 9 June 2021.
  78. ↑ "Club Statement: Ancelotti Leaves Everton". Everton F.C. 1 June 2021. สืบค้นเมื่อ 1 June 2021.
  79. ↑ "Benitez Appointed Everton Manager". Everton F.C. 30 June 2021. สืบค้นเมื่อ 30 June 2021.
  80. ↑ "Academy coaching update". Tottenham Hotspur F.C. 3 July 2021. สืบค้นเมื่อ 2 August 2021.
  81. ↑ "Nuno Espírito Santo Appointed New Head Coach". Tottenham Hotspur F.C. 30 June 2021. สืบค้นเมื่อ 2 August 2021.
  82. ↑ "Club Statement: Xisco Muñoz". Watford F.C. 3 October 2021. สืบค้นเมื่อ 3 October 2021.
  83. ↑ "Official: Ranieri Appointed Head Coach". Watford F.C. 4 October 2021. สืบค้นเมื่อ 4 October 2021.
  84. ↑ "Steve Bruce leaves Newcastle United by mutual consent". Newcastle United F.C. 20 October 2021. สืบค้นเมื่อ 20 October 2021.
  85. ↑ "Steve Bruce leaves Newcastle United by mutual consent". Newcastle United F.C. 20 October 2021. สืบค้นเมื่อ 20 October 2021.
  86. ↑ "Spurs sack Nuno after four months". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2021-11-01.
  87. ↑ "Antonio Conte appointed new Head Coach". Tottenham Hotspur F.C. 2 November 2021. สืบค้นเมื่อ 2 November 2021.
  88. ↑ "Club statement: Daniel Farke". Norwich City F.C. 6 November 2021. สืบค้นเมื่อ 6 November 2021.
  89. ↑ "Norwich City announce Dean Smith as new head coach". Norwich City F.C. 15 November 2021. สืบค้นเมื่อ 15 November 2021.
  90. ↑ "Club Statement". Aston Villa F.C. 7 November 2021. สืบค้นเมื่อ 7 November 2021.
  91. ↑ "Villa announce Steven Gerrard as Head Coach". Aston Villa FC. 11 November 2021. สืบค้นเมื่อ 11 November 2021.
  92. ↑ 92.0 92.1 "Newcastle United appoint Eddie Howe as head coach". Newcastle United F.C. 8 November 2021. สืบค้นเมื่อ 8 November 2021.
  93. ↑ 93.0 93.1 "Club Statement on Ole Gunnar Solskjaer". Manchester United F.C. 21 November 2021. สืบค้นเมื่อ 21 November 2021.
  94. ↑ "Club Statement on Ole Gunnar Solskjaer". Manchester United F.C. 21 November 2021. สืบค้นเมื่อ 21 November 2021.
  95. ↑ "United Appoint Rangnick as Interim Manager". Manchester United F.C. 29 November 2021. สืบค้นเมื่อ 29 November 2021.
  96. ↑ "Benitez Departs As Everton Manager". Everton F.C. 16 January 2022. สืบค้นเมื่อ 16 January 2022.
  97. ↑ "Ferguson Appointed Caretaker Manager". Everton F.C. 16 January 2022. สืบค้นเมื่อ 16 January 2022.
  98. ↑ "Club Statement: Claudio Ranieri". Watford F.C. 24 January 2022. สืบค้นเมื่อ 24 January 2022.
  99. ↑ "Official: Hodgson Appointed Manager". Watford F.C. 25 January 2022. สืบค้นเมื่อ 25 January 2022.
  100. ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-01-30. สืบค้นเมื่อ 2022-01-31.
  101. ↑ "Everton: Frank Lampard agrees to become manager". 30 January 2022. สืบค้นเมื่อ 30 January 2022.
  102. ↑ "Club Statement: Marcelo Bielsa". Leeds United F.C. 27 February 2022. สืบค้นเมื่อ 27 February 2022.
  103. ↑ "Jesse Marsch appointed Leeds United head coach". Leeds United F.C. 28 February 2022. สืบค้นเมื่อ 28 February 2022.
  104. ↑ 104.0 104.1 "Club Statement". Burnley F.C. 15 April 2022. สืบค้นเมื่อ 15 April 2022.
  105. ↑ "European qualification for UEFA competitions explained". Premier League. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-25. สืบค้นเมื่อ 17 April 2022.
  106. ↑ "Premier League Handbook 2021/22" (PDF). Premier League. pp. 105–107. สืบค้นเมื่อ 14 August 2021.
  107. ↑ "Premier League Player Stats - Goals". Premier League. สืบค้นเมื่อ 22 May 2022.
  108. ↑ Stone, Simon (14 August 2021). "Manchester United 5–1 Leeds United: Bruno Fernandes hat-trick earns hosts thumping win". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ 14 August 2021.
  109. ↑ "Watford 0-5 Liverpool: Roberto Firmino hat-trick and Mohamed Salah scores another stunner". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 16 October 2021. สืบค้นเมื่อ 16 October 2021.
  110. ↑ "Chelsea 7-0 Norwich City: Mount scores hat-trick as Blues thrash Canaries". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 23 October 2021. สืบค้นเมื่อ 23 October 2021.
  111. ↑ "Everton 2-5 Watford: King hat-trick stuns Everton to give Ranieri first win as Watford boss". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 23 October 2021. สืบค้นเมื่อ 23 October 2021.
  112. ↑ "Manchester United 0-5 Liverpool: Salah hat-trick as Solskjaer's side thrashed". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 24 October 2021. สืบค้นเมื่อ 24 October 2021.
  113. ↑ Mann, Mantej (16 January 2022). "West Ham 2-3 Leeds United: Jack Harrison scores first career hat-trick". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ 16 January 2022.
  114. ↑ Bysouth, Alex (12 February 2022). "Norwich City 0–4 Manchester City: Sterling scores hat-trick as Man City beat Norwich". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ 12 February 2022.
  115. ↑ "Norwich City 1–3 Brentford: Ivan Toney hat-trick as Bees move five points clear of bottom three". British Broadcasting Corporation. 5 March 2022. สืบค้นเมื่อ 5 March 2022.
  116. ↑ Stone, Simon (12 March 2022). "Manchester United 3-2 Tottenham Hotspur: Cristiano Ronaldo scores hat-trick in thriller". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ 12 March 2022.
  117. ↑ Beardmore, Michael (12 March 2022). "Aston Villa 0–4 Tottenham Hotspur: Son hits hat-trick as clinical Spurs thrash Villa". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ 9 April 2022.
  118. ↑ "Manchester United 3–2 Norwich City:". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 16 April 2022. สืบค้นเมื่อ 16 April 2022.
  119. ↑ "Manchester City 5–1 Watford: Gabriel Jesus scores four as Premier League leaders move four points clear". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 23 April 2022. สืบค้นเมื่อ 23 April 2022.
  120. ↑ Bevan, Chris (11 May 2022). "Wolves 1–5 Man City: Kevin de Bruyne scores four goals to send leaders three points clear". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ 11 May 2022.
  121. ↑ "Premier League Player Stats - Assists". Premier League. สืบค้นเมื่อ 22 May 2022.
  122. ↑ "Premier League Player Stats - Clean Sheets". Premier League. สืบค้นเมื่อ 22 May 2022.
  123. ↑ "Premier League Player Stats - Yellow Cards". Premier League. สืบค้นเมื่อ 22 May 2022.
  124. ↑ "Premier League Player Stats - Red Cards". Premier League. สืบค้นเมื่อ 22 May 2022.
  125. ↑ "Premier League Club Stats - Yellow Cards". Premier League. สืบค้นเมื่อ 22 May 2022.
  126. ↑ "Premier League Club Stats - Red Cards". Premier League. สืบค้นเมื่อ 22 May 2022.
  127. ↑ "Nuno earns August's Barclays Manager of the Month award". Premier League. 10 September 2021. สืบค้นเมื่อ 10 September 2021.
  128. ↑ "Antonio named August's EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 10 September 2021. สืบค้นเมื่อ 10 September 2021.
  129. ↑ "Ings wins August's Budweiser Goal of the Month award". Premier League. 10 September 2021. สืบค้นเมื่อ 10 September 2021.
  130. ↑ "Arteta named Barclays Manager of the Month". Premier League. 8 October 2021. สืบค้นเมื่อ 8 October 2021.
  131. ↑ "Ronaldo voted EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 8 October 2021. สืบค้นเมื่อ 8 October 2021.
  132. ↑ "Townsend claims Budweiser Goal of the Month". Premier League. 8 October 2021. สืบค้นเมื่อ 8 October 2021.
  133. ↑ "Tuchel named Barclays Manager of the Month". Premier League. 12 November 2021. สืบค้นเมื่อ 12 November 2021.
  134. ↑ "Salah wins EA SPORTS Player of the Month award". Premier League. 12 November 2021. สืบค้นเมื่อ 12 November 2021.
  135. ↑ "Salah completes double with Budweiser Goal of the Month". Premier League. 12 November 2021. สืบค้นเมื่อ 12 November 2021.
  136. ↑ "Guardiola named Barclays Manager of the Month". Premier League. 10 December 2021. สืบค้นเมื่อ 10 December 2021.
  137. ↑ "Alexander-Arnold voted EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 10 December 2021. สืบค้นเมื่อ 10 December 2021.
  138. ↑ "Stunning Rodri strike wins Budweiser Goal of the Month". Premier League. 10 December 2021. สืบค้นเมื่อ 10 December 2021.
  139. ↑ "Guardiola claims Barclays Manager of the Month award". Premier League. 14 January 2022. สืบค้นเมื่อ 14 January 2022.
  140. ↑ "Sterling wins EA SPORTS Player of the Month award". Premier League. 14 January 2022. สืบค้นเมื่อ 14 January 2022.
  141. ↑ "Lacazette strike voted Budweiser Goal of the Month". Premier League. 14 January 2022. สืบค้นเมื่อ 14 January 2022.
  142. ↑ "Lage claims Barclays Manager of the Month award". Premier League. 4 February 2022. สืบค้นเมื่อ 4 February 2022.
  143. ↑ "De Gea wins EA SPORTS Player of the Month award". Premier League. 4 February 2022. สืบค้นเมื่อ 4 February 2022.
  144. ↑ "Kovacic volley voted Budweiser Goal of the Month". Premier League. 4 February 2022. สืบค้นเมื่อ 4 February 2022.
  145. ↑ "Howe named Barclays Manager of the Month". Premier League. 11 March 2022. สืบค้นเมื่อ 11 March 2022.
  146. ↑ "Matip wins EA SPORTS Player of the Month award". Premier League. 11 March 2022. สืบค้นเมื่อ 11 March 2022.
  147. ↑ "Zaha wonder strike voted Budweiser Goal of the Month". Premier League. 11 March 2022. สืบค้นเมื่อ 11 March 2022.
  148. ↑ "Arteta earns March's Barclays Manager of the Month award". Premier League. 1 April 2022. สืบค้นเมื่อ 1 April 2022.
  149. ↑ "Kane claims EA SPORTS Player of the Month award". Premier League. 1 April 2022. สืบค้นเมื่อ 1 April 2022.
  150. ↑ "Ronaldo wins March's Budweiser Goal of the Month". Premier League. 1 April 2022. สืบค้นเมื่อ 1 April 2022.
  151. ↑ "Jackson chosen as April's Barclays Manager of the Month". Premier League. 12 May 2022. สืบค้นเมื่อ 12 May 2022.
  152. ↑ "Ronaldo named April EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 12 May 2022. สืบค้นเมื่อ 12 May 2022.
  153. ↑ "Almiron wonder strike voted Budweiser Goal of the Month". Premier League. 12 May 2022. สืบค้นเมื่อ 12 May 2022.
  154. ↑ "De Bruyne voted EA SPORTS Player of the Season". Premier League. 21 May 2022. สืบค้นเมื่อ 21 May 2022.
  155. ↑ "Foden named Hublot Young Player of the Season". Premier League. 21 May 2022. สืบค้นเมื่อ 21 May 2022.
  156. ↑ "Salah named writers' Footballer of the Year". BBC Sport. 29 April 2022. สืบค้นเมื่อ 29 April 2022.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/w/index.php?title=พรีเมียร์ลีก_ฤดูกาล_2021–22&oldid=11641725"